ในยุคที่การทำเป็นเว็บไซต์เป็นเรื่องง่าย แค่ใช้เครื่องมือมากมายจากอินเตอร์เน็ตในการออกแบบ ตกแต่ง และปรับปรุงเว็ปไซต์ การใช้งานก็ง่ายเพราะเครื่องมือพวกนี้มี template ช่วยทำให้หมดได้ แต่หารู้ไม่ว่าความง่ายจากการใช้เครื่องมือออนไลน์ในการสร้างเว็ปไซต์มักแลกมาด้วยขนาดไฟล์เว็ปไซต์ขนาดใหญ่ เพราะ template ส่วนใหญ่จะมีไฟล์เยอะเกินความจำเป็น ขนาดไฟล์ที่ใหญ่นี้ก่อปํญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเข้ามาชมเว็ปของเรา มันทำให้เว็ปไซต์ของเราโหลดช้าซึ่งจะทำให้เราเสียอะไรไปมากมาย
สิ่งที่จะเราจะเสียถ้าเว็ปของเราโหลดช้า
กฎ 3 วินาที ผู้ชมไม่รอเว็บโหลดนาน
ด้วยการที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากรอโหลดเป็นเวลานาน การรอให้เว็ปขึ้นเกินไปจึงเป็นเรื่องน่ารำคาญ สุดท้ายแล้วก็รอไม่ไหว ออกจากเว็ปไปดูเว็ปอื่นแทน จากสถิติแล้วคน มากกว่า 50% ที่ใช้มือถือหรือแท็บเลตในการเข้าเว็ปไซต์จะปิดเว็ปถ้ารอเกิน 3 วินาที เองในช่วงแรกก็มีปัญหาด้านผู้เข้าชมที่ต่ำจากการที่ตัวเว็ปไซต์โหลดรูปภาพและข้อมูลเยอะเกินไป หลังจากนั้นก็มีการปรับเว็ปไซต์ใหม่จนทำให้มีผู้เข้าชมจาก search engine เพิ่มขึ้น 15%
เสียการขึ้นในหน้าผลลัพธ์การค้นหา
Google สนับสนุนเว็ปไซต์ที่โหลดเร็วด้วยการที่จะให้เว็ปเหล่านั้นปรากฎอยู่ในหน้าผลลัพธ์การค้นหาเป็นอันดับต้นๆ แน่นอนว่าการอยู่ในอันดับสูงในหน้าผลลัพธ์การค้นหาจะช่วยให้ traffic ของเว็ปไซต์เราสูงขึ้น ในทางตรงกันข้าม เว็ปที่โหลดช้าก็ที่มีผู้เข้าชมเว็ปน้อยลง
เสียการนำเสนอสินค้า
ถ้าคนไม่เข้ามาในเว็ปไซต์ของเรา เพราะเว็ปไซต์ของเราโหลช้า ถึงเราทำคอนเทนต์ที่ดีแค่ไหน ก็จะไม่มีใครอ่านบทความของเรา เท่ากับว่าเราเสียโอกาสในในการนำเสนอสินค้าหรือบริการของเรานั้นเอง แม้ว่าเราจะมีสินค้าที่น่าสนใจหรือดีแค่ไหน ก็มีโอกาสต่ำที่กลุ่มลูกค้าของเราที่ซื้อสินค้าของเรา ต่อให้มีการทำการตลาดแบบโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing) บน Facebook, Twitter หรือ Instagram ที่สามารถนำเสนอสินค้าได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าลูกค้าสนใจสินค้าขึ้นมาจริงๆ ลูกค้าก็จะเข้ามาดูเว็ปไซต์อยู่ดี เพราะต้องการลายละเอียดสินค้า
เสียโอกาสทางธุรกิจ
เว็ปไซต์นั้นถูกสร้างขึ้นมาให้ใช้ประโยชน์ เช่นปิดการขาย เล่าเรื่องราวของแบรนด์ หรือ บอกลายละเอียดของสินค้าหรือบริการ สามารถพูดได้อีกอย่างว่าเว็ปไซตที่เราสร้างขึ้นมาเป็นการสื่อสารระหว่างร้านค้ากับผู้ใช้งาน ถ้าสารของเราส่งไม่ถึงเพราะผู้ใช้งานการออกจากเว็ปไซต์ก่อนจะที่จะอ่านบทความ การสื่อสารก็จะถือว่าเป็นการสื่อสารที่ล้มเหลว แน่นนอนว่าเป้าหมายของเว็ปไซต์ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเช่นกัน
เสียประสบการณ์ของผู้ใช้
การที่ผู้ใช้เว็ปไซต์ของเราเข้ามาแล้วต้องรอโหลดภาพขนาดใหญ่ ต้องกดปิดข้อความป็อปอัพที่ให้กรอกอีเมล์ อายุหรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ และต้องรอให้ขึ้นเอฟเฟคที่ไม่จำเป็นก่อนจะอ่านข้อมูลบนเว็ปได้ที่ผู้ใช้ต้องการจริงๆ ป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากในกรณีนี้ สิ่งที่เว็ปไซต์ให้กับผู้ใช้ไม่ใช่เนื้อหาที่ผู้ใช้ต้องการ แต่เป็นประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience) ที่ไม่ดี พูดอีกอย่างก็คือผู้ใช้เว็ปของเราจะมีความประทับใจแรกที่ไม่ดีกับแบรนด์ของเราจากเว็ปไซต์ที่ทำงานต่ำกว่ามาตราฐาน
เสีย Conversion Rate
Conversion rate คือยอดการกระทำของกลุ่มลูกค้า ในกรณีนี้ก็คือการที่เราจะเปลี่ยนจากผู้ใช้เว็ปไซต์ที่ยังไม่ซื้อสินค้าหรือบริการจากเราให้เป็นลูกค้าของเราจริงๆด้วยการซื้อสินค้าจากเรา ข้อนี้เป็นผลกระทบจากข้อที่แล้วคือ ถ้าประสบการณ์ของผู้ใช้เว็ปไซต์ไม่ดี เว็ปไซต์ไม่สร้างการประทับใจต่อผู้ใช้ มันก็เป็นไปได้ยากที่จะเปลี่ยนผู้ใช้เว็ปใซต์ให้เป็นลูกค้า
การที่เว็ปไซต์ของเราโหลดช้าเป็นเรื่องสำคัญมาก จำเป็นต้องแก้ไขโดยด่วน ปัญหาที่เว็ปของเราช้าอาจเกินมาจากการที่เรามีไฟล์เว็ปไซต์ของเรามีขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้เข้ามาใช้เว็ปของเราจำเป็นต้องรอโหลดนาน ปัญหาของเว็ปที่โหลดนานคือการสูญเสียจำนวนมาก เช่น เสียผู้เข้าชม เสียการขึ้นในหน้าผลลัพธ์การค้นหา เสียการนำเสนอสินค้า เสียโอกาสทางธุรกิจ เสียประสบการณ์ของผู้ใช้ และท้ายที่สุดเสียลูกค้านั่นเอง